ประเภทของเหรียญคริปโต

ประเภทของเหรียญคริปโต Bitcoin, Ethereum, Stablecoins, Altcoins, และ DeFi Tokens

ในโลกของคริปโตเคอเรนซี (Cryptocurrency) มีประเภทของเหรียญคริปโตหลากหลายที่ถูกสร้างขึ้น เพื่อรองรับกับการใช้งานที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการเก็บมูลค่า การทำธุรกรรม หรือการสร้างระบบการเงินแบบกระจายอำนาจ 

เหรียญ Bitcoin

Bitcoin หรือ BTC เหรียญคริปโตที่เริ่มต้นและได้รับความสนใจที่สุดในโลก ถูกสร้างขึ้นในปี 2009 โดยบุคคลหรือกลุ่มคนที่ใช้ชื่อว่า Satoshi Nakamoto Bitcoin เป็น สกุลเงินดิจิทัล ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการทำธุรกรรมออนไลน์ โดยไม่ต้องผ่านธนาคารหรือสถาบันการเงินใด ๆ ซึ่งหมายความว่า Bitcoin เป็นการเงินที่กระจายอำนาจ (Decentralized Finance) โดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) เพื่อตรวจสอบและยืนยันการทำธุรกรรม

ข้อดี ในการใช้ Bitcoin

การ ไม่ต้อง ทำธุรกรรม ผ่านตัวกลางอย่างธนาคาร ทำให้สามารถส่งเงินได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยทั่วโลก โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมที่สูง นอกจากนี้ยังถือว่าเป็นเหรียญที่ เหมาะสม สำหรับการเก็บมูลค่า เนื่องจากมีการจำกัดจำนวนการสร้างเหรียญ (21 ล้านเหรียญ) ทำให้มีความหายากและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมูลค่าได้ในระยะยาว

Ethereum (ETH)

เหรียญ Ethereum

Ethereum แพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นมา เพื่อให้สามารถพัฒนาและใช้งานแอปพลิเคชัน ของบล็อกเชนได้ โดยเฉพาะ Smart Contracts หรือ สัญญาอัจฉริยะ ที่สามารถทำงานได้โดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องพึ่งพาผู้ใด Ethereum ถูกคิดค้นโดย Vitalik Buterin ในปี 2013 และเปิดตัวในปี 2015

สิ่งที่ทำให้ Ethereum โดดเด่นคือ Ethereumไม่ใช่แค่เหรียญดิจิทัล (ETH) เท่านั้น แต่ยังเป็นระบบที่ช่วยให้การพัฒนาแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Applications หรือ DApps) เป็นไปได้อย่างราบรื่น 

ตัวอย่าง

การใช้งาน Ethereum ได้แก่ การสร้าง Token ใหม่ ๆ และ DeFi หรือระบบการเงินแบบกระจาย (Decentralized Finance) ที่ใช้ Ethereum เป็นโครงสร้างพื้นฐานในการทำธุรกรรม

Ethereum ยังถูกใช้ในการสร้างเหรียญใหม่ ๆ หรือที่เรียกว่า ERC-20 tokens ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้ในการสร้างเหรียญภายในระบบ Ethereum โดยเหรียญเหล่านี้สามารถใช้ในแอปพลิเคชันหรือโปรเจกต์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Ethereum

Stablecoins

เหรียญ Stablecoins

Stablecoins เหรียญคริปโตที่มีเป้าหมายในการรักษาความเสถียรของมูลค่า โดยการผูกมูลค่ากับสินทรัพย์ที่มีมูลค่าคงที่ เช่น เงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) หรือทองคำ ตัวอย่างของ Stablecoins ได้แก่ Tether (USDT), USD Coin (USDC), และ Dai (DAI)

การใช้ Stablecoins เป็นทางเลือกที่ดี สำหรับนักลงทุนที่ต้องการหลีกเลี่ยงความผันผวน ของราคาในตลาดคริปโต เนื่องจาก Stablecoins มักจะมีมูลค่าคงที่เหมือนกับ สกุลเงิน ที่ผูกอยู่ ทำให้สามารถใช้ในธุรกรรมที่ต้องการความมั่นคงได้ง่าย เช่น การโอนเงิน การซื้อสินค้า หรือการเก็บเงินในรูปแบบดิจิทัล

Stablecoins เป็นที่ชื่นชอบในหมู่นักลงทุนที่ต้องการความเสี่ยงต่ำกว่า การลงทุนในเหรียญคริปโตมีความผันผวนสูง แต่ในบางคนก็ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับความโปร่งใสในการค้ำประกันมูลค่าของ Stablecoins ซึ่งบางเหรียญอาจไม่ได้รับการค้ำประกันอย่างเต็มที่

Altcoins

เหรียญ Altcoins

Altcoins เหรียญคริปโตที่ไม่ใช่ Bitcoin โดยคำว่า Altcoin มาจากคำว่า Alternative Coin ซึ่ง หมายถึง เหรียญที่เป็นทางเลือกของ Bitcoin โดย Altcoins นี้มีหลายประเภท และ ฟังก์ชัน การใช้งานที่แตกต่างกันไป บางเหรียญพัฒนา เพื่อ รองรับการทำธุรกรรม ที่เร็วขึ้น หรือ ราคาที่ถูกลง ขณะที่บางเหรียญ เน้นการ ปรับปรุงความปลอดภัย หรือ การใช้งานเฉพาะทาง

ตัวอย่างของ Altcoins ที่นักลงทุนสนใจ

Litecoin (LTC) พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้การทำธุรกรรมเร็วขึ้น

Ripple (XRP) มุ่งเน้นการทำธุรกรรมระหว่างประเทศที่เร็วและถูก

Cardano (ADA) เน้นการพัฒนาแอปพลิเคชันบนบล็อกเชนในรูปแบบที่มีความปลอดภัยสูง

Polkadot (DOT) พยายามสร้างการเชื่อมโยงระหว่างบล็อกเชนต่าง ๆ

Altcoins สามารถแบ่งได้หลายประเภท เช่น Privacy Coins ที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน เช่น Monero (XMR) และ Zcash (ZEC), หรือ Governance Tokens ที่ใช้ในการเข้าร่วมการตัดสินใจในโครงการต่าง ๆ เช่น Uniswap (UNI)

อนาคตของ Altcoins จะเป็นอย่างไรแล้วเราควรลงทุนดีไหม ติดตามได้ใน Altcoins การเติบโตและพัฒนาการจาก Bitcoin

DeFi Tokens

DeFi Tokens

DeFi หรือ Decentralized Finance ระบบการเงินที่ทำงาน โดยไม่ต้องมีตัวกลาง อย่างธนาคาร หรือสถาบันการเงิน DeFi ใช้ เทคโนโลยีบล็อกเชน ในการให้บริการทางการเงิน เช่น การให้ยืม การกู้ยืม การแลกเปลี่ยนเหรียญ หรือการทำประกัน โดยทุกอย่างทำผ่านสัญญาอัจฉริยะที่ทำงานอัตโนมัติและโปร่งใส

DeFi Tokens เหรียญที่ใช้ในระบบ DeFi เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบริการต่าง ๆ ได้

ตัวอย่างของ DeFi Tokens ที่นักลงทุนสนใจ

Uniswap (UNI) เหรียญของการแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์

Aave (AAVE) ใช้ในการให้ยืมและกู้ยืมในระบบ DeFi

Maker (MKR) ใช้ในการสร้างและค้ำประกัน Stablecoin อย่าง Dai (DAI)

ข้อดี DeFi Tokens 

ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบริการการเงิน ที่ไม่ต้องพึ่งพาธนาคาร และสามารถทำธุรกรรมได้ในรูปแบบที่สามารถเปิดเผยได้และโปร่งใส แต่ระบบนี้มีความเสี่ยงในเรื่องของความปลอดภัยและความซับซ้อนในการใช้งาน

การเลือกเหรียญคริปโตให้เหมาะสมกับการใช้งานในตลาด

ประเภทของเหรียญคริปโต มีความหลากหลายและถูกพัฒนาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ การเก็บมูลค่า และ การทำธุรกรรม ที่รวดเร็วไปจนถึงการสร้างระบบการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) ที่ไม่ต้องพึ่งพาธนาคาร การเข้าใจประเภทต่าง ๆ ของเหรียญคริปโตจะช่วยให้คุณสามารถเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสม และ มีประสิทธิภาพตามความต้องการของคุณในตลาดคริปโต

หากคุณกำลังมองหาโอกาส ในการลงทุน เหรียญคริปโตที่น่าลงในปี 2025 บทความนี้อาจตอบโจทย์ความต้องการของคุณ